นโยบายความเป็นส่วนตัว
(HR Privacy Policy)
บริษัท เซราไทย จำกัด ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า ( “บริษัท” ) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า บริษัทมีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย บริษัท รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของ บริษัท โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
1.ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย
นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับ บริษัท ในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย บริษัท เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจหรือหน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดำเนินการโดย บริษัท และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ บริษัท (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท (รวมเรียกว่า “บริการ”) บุคคลมีความสัมพันธ์กับ บริษัท ตามความในวรรคแรก รวมถึง
- ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง
- คู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
- กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ บริษัท
- ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท
- ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ cerathai.com รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย บริษัท
- บุคคลอื่นที่ บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้ค้ำประกัน ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นต้น
ข้อ 1) ถึง 6) เรียกรวมกันว่า “ท่าน”
นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว บริษัท อาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น
2.คำนิยาม
- บริษัท หมายถึง บริษัท เซราไทย จำกัด
- ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
- เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
- ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
3.แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม
บริษัท เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ บริษัท ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท เป็นต้น
- ข้อมูลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่ บริษัท มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ บริษัท ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท
ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ บริษัท อาจเป็นผลให้ บริษัท ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
4.ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท พิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ ทั้งนี้ ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท ใช้ ประกอบด้วย
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล | รายละเอียด |
เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ บริษัท ได้รับ | เพื่อให้ บริษัท สามารถใช้อำนาจและดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์ตามพันธกิจ บริษัท ซึ่งกำหนดไว้ตามกฎหมาย เช่น – พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 – ระเบียบบริษัท เซราไทย จำกัด – รวมถึง กฎ ระเบียบ คำสั่งและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น |
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย | เพื่อให้ บริษัท สามารถปฏิบัติตามที่กฎหมายที่ควบคุม บริษัท เช่น – การเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log File) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 – พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 – พระราขบัญญัติองค์การมหาชน พ.ศ. 2542 – กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร รวมถึง การดำเนินการตามคำสั่งศาล เป็นต้น |
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัท และของบุคคลอื่น ซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เพื่อการรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่ของ บริษัท หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจการภายในของ บริษัท เป็นต้น |
เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล | เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เช่น การให้บริการแอปพลิเคชันเพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดตามนโยบายของรัฐบาล เป็นต้น |
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | เพื่อให้ บริษัท สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือดำเนินการอันเป็นความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับ บริษัท เช่น การจ้างงาน จ้างทำของ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น |
เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ | เพื่อให้ บริษัท สามารถจัดทำหรือสนับสนุนการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ วิจัยหรือสถิติตามที่ บริษัท อาจได้รับมอบหมาย เช่น การจัดทำทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ หรือคณะกรรมการ การจัดทำสถิติต่างๆ เป็นต้น |
ความยินยอมของท่าน | เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ บริษัท จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่าน โดยได้มีการแจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนการขอความยินยอมแล้ว เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวด้วยวัตถุประสงค์ที่ไม่เป็นไปตามข้อยกเว้นมาตรา 24 หรือ 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือการนำเสนอ ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการของคู่สัญญาหรือพันธมิตรทางธุรกิจแก่ท่าน เป็นต้น |
ในกรณีที่ บริษัท มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ คัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้ บริษัท ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
5.ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม
บริษัท อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการที่ท่านใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับ บริษัท รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยประเภทของข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียดและตัวอย่าง |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล | ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลขใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ) หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล | ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น |
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ | ข้อมูลเพื่อการติดต่อท่าน เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา | รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีธนาคาร สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย | รายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยผู้ปฏิบัติงาน เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม | ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของท่าน เช่น สถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมือง การดำรงตำแหน่งกรรมการ ความสัมพันธ์กับผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท ข้อมูลการเป็นผู้มีสัญญาจ้างกับ บริษัท ข้อมูลการเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่ทำกับ บริษัท เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ บริษัท | รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN ข้อมูล Single Sign-on (SSO ID) รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน (เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของ บริษัท เช่น www.cerathai.com หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ) ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน | ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ข้อมูลความเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น |
6.คุกกี้
บริษัท เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ บริษัท เช่น www.cerathai.com หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ บริษัท และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ บริษัท และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ บริษัท ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้
7.ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ
กรณีที่ บริษัท ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัท จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
กรณีที่ บริษัท ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า บริษัท ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ดังนี้ บริษัท จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหาก บริษัท ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
8.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือกิจกรรมที่ท่านใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับ บริษัท หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท เป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน
- เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการดำเนินประโยชน์สาธารณะที่ บริษัท ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง หรือเป็นการจำเป็นเพื่อใช้อำนาจทางกฎหมายที่ บริษัท มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามพันธกิจ และกฎหมาย กฎ ระเบียบหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของ บริษัท ทั้งบริการภายใต้สัญญาที่มีต่อท่าน หรือตามพันธกิจของ บริษัท
- เพื่อการดำเนินการทางธุรกรรมของ บริษัท
- ควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบและบริหารจัดการบริการเพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน
- เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่าน รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงท่าน
- จัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
- วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของ บริษัท
- เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการรับสมัครงาน การสรรหากรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ การประเมินคุณสมบัติ
- ป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้ง บริษัท และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านสมัครใช้บริการของ บริษัท หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
- ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย
- การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
- ส่งการแจ้งเตือน การยืนยันการทำคำสั่ง ติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
- เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
- ยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
- ตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงและใช้บริการของ บริษัท อย่างไร ทั้งในภาพรวมและรายบุคคล และเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์
- ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่ บริษัท มีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม หน่วยงานด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของบริษัท
- ดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของ บริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการการดำเนินการของบริษัท
- ป้องกัน หรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด
- จัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การค้นคว้า หรือจัดทำสถิติที่ บริษัท ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน
9.ประเภทบุคคลที่ บริษัท เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 9 ข้างต้น บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท เป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลผู้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้
ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล | รายละเอียด |
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่ บริษัท ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่น (เช่น การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ) | หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานปลัดสำนักนายก กรมการกงสุล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น |
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของ บริษัท | บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่าง ๆ เช่น คณะอนุกรรมการสรรหา คณะกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น |
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท | บุคคลภายนอกที่ บริษัท จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล บริษัทผู้จัดทำ Payroll ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น |
พันธมิตรทางธุรกิจ | บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลที่ร่วมงานกับ บริษัท เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น หน่วยงานผู้ให้บริการที่ท่านติดต่อผ่านบริการของ บริษัท ผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นต้น |
ผู้ให้บริการ | บริษัท อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของ บริษัท เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์ โกดังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น |
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น | บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ติดต่อ บริษัท สมาชิกในครอบครัว มูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ บริษัท การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น |
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ | บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การดำเนินการที่กำหนดให้ บริษัท ต้องประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาหรือมติคณะรัฐมนตรี เป็นต้น |
10.การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัท อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ บริษัท ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อ บริษัท มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัท จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ บริษัท ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
- ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
- เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ บริษัท หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
- เป็นการกระทำตามสัญญาของ บริษัท กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
- เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
11.ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว บริษัท จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด
12.การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
บริษัท อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ บริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัท จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ บริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ บริษัท มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ บริษัท เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ บริษัท จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง บริษัท กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
13.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดย บริษัท มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อ บริษัท มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัท จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
14.การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
บริการของ บริษัท อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ บริษัท ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัท ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
15.เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
16.สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินี้มีผลใช้บังคับ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่ บริษัท มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
3) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัท ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ บริษัท ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ บริษัท ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ บริษัท เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ บริษัท กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่ บริษัท มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น บริษัท สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ บริษัท)
6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ บริษัท ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดย บริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้ บริษัท จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับ บริษัท ที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
7) สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก บริษัท ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้ บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
17.โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ของ บริษัท (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อ บริษัท และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
18.การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล
ในกรณีที่ท่านพบว่า บริษัท มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัท ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายัง บริษัท เพื่อให้ บริษัท มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก
19.การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.cerathai.com โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัท ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่ บริษัท ดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ บริษัท
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้ โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายัง บริษัท เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
20.การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
▪ บริษัท เซราไทย จํากัด เลขที่ 580 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
▪ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer (DPO)
- อีเมล [email protected]
- เบอร์โทรศัพท์ [02] 514-0293-5 , [02] 5140147-9 ต่อ 313
ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2565
(HR Privacy Policy)
บริษัท เซราไทย จำกัด ต่อไปเรียกว่า “บริษัท” ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) เนื่องจากนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลอ่อนไหวของท่ายในฐานะผู้สมัครและ/หรือพนักงาน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงการใช้สิทธิต่างๆ ของท่าน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท บริษัทจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
1.คํานิยาม (Definition)
ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) หมายถึง ข้อมูลใดก็ตามที่สามารถบ่งบอกตัวบุคคลผู้สมัครงานและพนักงานได้ (ไม่ว่าด้วยข้อมูลนั้นเองหรือโดยประกอบกับข้อมูลอื่น) ซึ่งในที่นี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
* กลุ่มที่1 ข้อมูลพื้นฐาน (Basic information) เช่น ชื่อนามสกุล อายุ ที่อยู่ เพศ อาชีพ วันเกิดสถานภาพการสมรส สัญชาติ ข้อมูลบัตรประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทางและการเข้าออกประเทศ ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลใบขับขี่ อีเมล ไลน์ไอดี หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลในเฟสบุ๊ค เว็บไซต์ คุ้กกี้ รูปภาพ ข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน ทะเบียนรถ เป็นต้น
* กลุ่มที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับการทํางาน (Work information) เช่น ข้อมูลใบสมัครงานประวัติการทํางานสัญญาประวัติการศึกษา ใบอนุญาตทํางาน ประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ รหัสพนักงาน เงินเดือนค่าตอบแทนสวัสดิการโบนัสตําแหน่ง ภาษีอากร รายละเอียดงานที่ได้รับมอบหมาย เป้าหมายการทํางาน ผลการประเมินฝึกอบรม บันทึกการลาและการขาดงาน ข้อมูลเกี่ยวกับความประพฤติและการกระทําผิดกฎหมายและหรือวินัยการทํางาน ข้อมูลและสาเหตุการพ้นสภาพการเป็นพนักงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลการสื่อสารและการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต และอีเมล เป็นต้น
ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวละเอียดอ่อน ที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูล เช่นเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ลายนิ้วมือ ข้อมูลชีวภาพ เป็นต้น
- ผู้สมัคร (Candidate) หมายถึงผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานตามสัญญาประจํา (Permanent) หรือสัญญาจ้างชั่วคราว (Temporary) พนักงานเหมาแรงงาน (Manpower Supply) พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (Outsource/Contractor) ที่เข้ามาทํางานในบริษัทแล้วแต่กรณีไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดําเนินการโดยผู้สมัครเองหรือดําเนินการรับสมัครงานภายในบริษัท หรือผ่านการแนะนําของบุคคลใดหรือผ่านผู้ให้บริการจัดหางาน
- พนักงาน (Employee) หมายถึงผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกให้ทําสัญญาเพื่อเข้าทํางานกับบริษัทในฐานะพนักงานประจํา (Permanent) พนักงานสัญญาจ้างชั่วคราว (Temporary) พนักงานเหมาแรงงาน (Manpower Supply) หรือพนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (Outsource/Contractor) ที่เข้ามาทํางานในบริษัท แล้วแต่กรณี
2. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว (Personal or Sensitive Data Processing)
2.1 วัตถุประสงค์ผู้สมัครงานและ/หรือพนักงานควรรับทราบว่าวัตถุประสงค์นี้เพื่อการดําเนินการตามกิจกรรมในการรับสมัครงานสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างแรงงานแบบมีระยะเวลา สัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาและสัญญาว่าจ้างอื่นใด (“สัญญา”) บริษัทสามารถจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานได้ (“ประมวลผล”)
บริษัทจําเป็นต้องได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและพนักงานอย่างถูกต้องครบถ้วนและเพียงพอ เพื่อดําเนินกิจกรรมการรับสมัครงาน การปฏิบัติตามสัญญา กฎเกณฑ์ ระเบียบภายใน ข้อกําหนดการดําเนินงานของบริษัท และ/หรือการดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครและพนักงานที่ถูกต้องครบถ้วนและเพียงพออาจส่งผลให้การดําเนินการใด ๆ ตามข้อตกลง หรือข้อกําหนดระหว่างบริษัทและผู้สมัครและพนักงานเกิดความล่าช้าหรือความไม่สะดวกขึ้น และในกรณีจําเป็นซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือตามกฎหมาย
บริษัทอาจจะปฏิเสธการดําเนินการตามข้อผูกพันใด ๆ ที่บริษัทมีต่อผู้สมัครและ/หรือพนักงานแล้วแต่กรณีอย่างไรก็ตาม บริษัทเคารพต่อสิทธิส่วนบุคคลและจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานเท่าที่จําเป็นและภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยกิจกรรรมที่ดําเนินการและฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของผู้สมัครและพนักงานมีดังนี้
การดําเนินงาน Processing Area | กิจกรรม Activities | ฐานการประมวลผล Basis for Processing |
การบริหารจัดการด้านการสมัครและจ้างแรงงาน [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การรับสมัครงานที่ดําเนินการโดยบริษัทซึ่งผู้สมัครและพนักงานติดต่อเข้ามาที่บริษัทด้วยตนเอง หรือการรับสมัครงานภายในบริษัท | สัญญา |
การสมัครงานโดยการแนะนําของบุคคลอื่นใด หรือโดยการดําเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน | ความยินยอม | |
การตรวจสอบรายชื่อบุคคลล้มละลายประเมินความเสี่ยงบุคคลด้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทําลายล้างสูง (เฉพาะบางตําแหน่งที่บริษัทกําหนด) | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การตรวจประวัติอาชญากรรม (เฉพาะบางตําแหน่งที่บริษัทกําหนด) | ความยินยอม | |
การสัมภาษณ์งาน การตรวจสอบประวัติ การศึกษาหรือประวัติการทํางานย้อนหลังจากแหล่งข้อมูลอื่น การวิเคราะห์ข้อมูล การเปรียบเทียบ การคัดเลือก การจัดทําสัญญา | สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับการปฏิบัติงานของพนักงาน [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การขึ้นทะเบียนพนักงาน การจัดเตรียมบัตรพนักงาน วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อีเมล username & password สําหรับการเข้าระบบต่างๆ ที่จําเป็น และอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับการปฏิบัติงานของพนักงาน และการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ หรือเพื่อการปฏิบัติงาน | สัญญา |
การจัดทําหรือต่ออายุวีซ่า ใบอนุญาตทํางาน การขออนุญาตหรือต่อใบอนุญาตที่เกี่ยวกับการทํางานของพนักงาน การขอความเห็นชอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย/ความยินยอม(เมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว) | |
การขอประวัติการแพ้อาหาร และการแพ้สิ่งต่างๆเพื่อการจัดอบรม หรือกิจกรรมต่างๆ | ความยินยอม | |
การเพิกถอนใบอนุญาต (เฉพาะตําแหน่งพนักงานขาย หรือตําแหน่งอื่นซึ่งมีกฎหมายกําหนดให้ต้องได้รับใบอนุญาต) และการปรับปรุงข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของหน่วยงานของรัฐให้เป็นปัจจุบัน | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านค่าตอบแทน ผลประโยชน์ และสวัสดิการพนักงาน [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การบริหารจัดการเรื่องเงินเดือน ค่าตอบแทน ค่าจ้าง โบนัส ค่าล่วงเวลา ค่าที่พัก ค่าเดินทาง รวมถึงผลประโยชน์ต่างๆให้กับพนักงาน | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย |
การบริหารจัดการเรื่องกองทุนประกันสังคม กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ กองทุนเงินทดแทน | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านภาษีอากรพนักงาน เช่น ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านค่าตอบแทน ผลประโยชน์ และสวัสดิการพนักงาน [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การบริหารจัดการด้านสวัสดิการ ด้านการป้องกัน การมาตรการบรรเทาอุบัติเหตุและอุบัติภัย การรายงาน และการใช้บริการห้องพยาบาล | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม |
การบันทึกการเบิกจ่ายยารักษาโรค การบรรเทาอุบัติเหตุ อุบัติภัย เหตุฉุกเฉินหรืออันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ ที่มีต่อพนักงาน การรักษาความปลอดภัย | ความยินยอม/ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล | |
การบริหารจัดการด้านประกันชีวิต และประกันภัยกลุ่ม การพิจารณารับประกันภัย การทําประกันภัยต่อ การพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน | สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม/ความยินยอม (เมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลอ่อนไหว | |
การส่งข้อมูลพนักงานให้ผู้ให้บริการและที่ปรึกษา เช่น การส่งข้อมูลเพื่อทําการสํารวจและวิเคราะห์ข้อมูลด้านค่าตอบแทน | ความยินยอม | |
การประกาศวันเกิด และการแสดงความอาลัยเกี่ยวกับความสูญเสียบุคคลในครอบครัวของพนักงาน การขอประวัติการแพ้อาหาร และการแพ้สิ่งต่างๆเพื่อการจัดกิจกรรม และงานเลี้ยงต่างๆ | ความยินยอม | |
การบริหารจัดการด้านกิจกรรมพนักงาน เช่น งานเลี้ยงวันเกิด งานเลี้ยงปีใหม่ งานสังสรรค์ ทริปท่องเที่ยวต่างๆ ที่จัดให้แก่พนักงาน(ถ้ามี) | สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการด้านวันหยุด วันลา การมาสาย | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีพนักงานบริษัทเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ | ความยินยอม | |
ประกาศพนักงานใหม่ประกาศบุคคลที่เป็นพนักงานดีเด่น,หรือได้รับการคัดเลือกเป็นพนักงานดีเด่น,ประกาศครบอายุการทํางาน,ประกาศเกี่ยวกับการเลื่อนตําแหน่ง,และการย้ายหน่วยงานของพนักงาน | ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การอายัดเงินเดือนหรือค่าตอบแทนอื่นใด ตามหมายหรือคําสั่งของกรมบังคับคดี หรือคําสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย | หน้าที่ตามกฎหมาย | |
การบริหารจัดการด้านการฝึกอบรมและการประเมินผลงาน [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การเข้ารับการอบรม การฝึกอบรม และการสอบวัดความรู้ในด้านต่างๆสําหรับพนักงาน | สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม |
การกําหนดเป้าหมายในการทํางาน การประเมินผลการทํางานของพนักงาน การพิจารณาปรับตําแหน่ง ปรับเงินเดือน และพิจารณาเรื่องโบนัส | สัญญา/ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการงานเรื่องร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ และการบริหารความเสี่ยง [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต หรือขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับการทํางานของบริษัท การพิจารณาและลงโทษทางวินัย | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม |
การดําเนินการใดๆ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน ดําเนินดคี หรือดําเนินมาตรการใดๆ เพื่อใช้สิทธิตามสัญญาและตามกฎหมาย | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมา/ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การส่งรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตของพนักงานให้แก่หน่วยงานกํากับดูแล และหน่วยงานที่มีอํานาจตามที่กฎหมายกําหนด เช่น เจ้าหน้าที่ตํารวจ, คปภ., ปปง., กรมสรรพากร, กรมบังคับคดี, เป็นต้น | หน้าที่ตามกฎหมาย/ประโยชน์อันชอบธรรม | |
การบริหารจัดการเมื่อสิ้นสุดสัญญาจ้าง [ทั้งที่บริษัทดําเนินการด้วยตนเองและที่บริษัทดําเนินการผ่านผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก] | การบริหารจัดการการลาออก การเกษียณอายุ การเลิกจ้างพนักงาน การแจ้งข้อมูลข้างต้นให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสรรพากร ธนาคาร สํานักงานประกันสังคม สนง.ตรวจคนเข้าเมือง กองงานคนต่างด้าว เป็นต้น | สัญญา/หน้าที่ตามกฎหมาย |
2.2 มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย บริษัทกําหนดให้มีข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทําลายการใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหวโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กําหนดในนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท
2.3 การเปลี่ยนแปลงและ/หรือเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ หากภายหลังมีในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่นการดําเนินการเพื่อให้ปฏิบัติสัญญาหรือเป็นกรณีที่กฎหมายกําหนด เป็นต้น บริษัทจะแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ที่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมให้ทราบผ่านทางต่างๆ ของบริษัท เช่น การติดประกาศหรืออีเมลแจ้งให้ทราบ และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านก่อนดําเนินการหรือทํากิจกรรมใดๆตามวัตถุประสงค์ใหม่นั้น (ตามที่กฎหมายกําหนด)
3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจํากัด (We process your Personal Data restrictively)
3.1 ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลอ่อนไหว บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และอย่างจํากัดเพียงเท่าที่จําเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้เท่านั้น
3.2 นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทําการประมวลผล เว้นแต่
(1) เป็นกรณีที่กฎหมายกําหนด
(2) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทําได้ในเวลานั้น
(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่าน
(4) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
(5) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทําสถิติ
3.3 บริษัทมีความจําเป็นในการจัดเก็บข้อมูลอ่อนไหวและละเอียดอ่อนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดําเนินการตามสัญญาและ/หรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับรายการดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทจะไม่จัดเก็บข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทําให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่
(1) ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากท่าน
(2) เป็นกรณีที่กฎหมายกําหนด
(3) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทําได้ในเวลานั้น
(4) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่าน
(5) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
(6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทําสถิติ
3.4 บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นเฉพาะในกรณีที่มีความจําเป็นเท่านั้น และอาจขอความยินยอมจากท่าน (กรณีที่กฎหมายกําหนดให้ต้องขอความยินยอม) ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ข้างต้น และเพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลท่านให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการดําเนินงานของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและ/หรือข้อมูลอ่อนไหวให้กับบุคคลภายนอก ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานตามกฎหมาย (We may disclose your Personal Data to Data Processor, or any authorities as required by laws)
4.1 เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดําเนินกิจกรรมการสมัครงานการดําเนินการตามสัญญาและ/หรือข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวที่กําหนดไว้ข้างต้น บริษัทอาจส่งโอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของพนักงานให้กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกซึ่งเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการ เป็นต้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
4.2 บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านบนระบบ Cloud Computing ที่ให้บริการโดยผู้ให้บริการภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศ
4.3 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและหรือข้อมูลอ่อนไหวของท่านให้กับ หน่วยงานตรวจสอบภายในและภายนอก หน่วยงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการก่อการร้าย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทประกันชีวิต เจ้าพนักงานกรมบังคับคดี พนักงานอัยการหรือศาล เจ้าหน้าที่ตํารวจ เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือองค์กรอื่นใดที่มีอํานาจหน้าที่ตามที่กําหนดโดยกฎหมาย
5. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Your participation as Personal Data owner)
5.1 กรณีท่านประสงค์จะใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ ท่านสามารถส่งคําร้องขอเข้ามาที่อีเมล[email protected] เมื่อได้รับคําร้องขอดังกล่าวแล้วบริษัทจะดําเนินการบันทึกคําร้องขอตรวจสอบและตอบกลับคําร้องขอของท่านภายในระยะเวลาอันสมควรสิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายของท่านที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆภายใต้ข้อกําหนดของกฎหมายและนโยบายที่กําหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคตตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกําหนดขึ้น
1) การเข้าถึง: ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ทั้งนี้เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของท่าน บริษัทอาจขอให้ท่านพิสูจน์ตัวตนของท่านก่อนจะให้ข้อมูลตามที่ท่านขอ
2) การแก้ไขให้ถูกต้อง: ท่านอาจมีสิทธิขอให้มีการดําเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน ที่ไม่สมบูรณ์ไม่ถูกต้องก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่เป็นปัจจุบัน
3) การขอให้ระงับการใช้: ท่านอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี
4) การลบหรือทําลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทําลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทําให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจําเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
5) การโอนย้ายข้อมูล: ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับท่านในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับบริษัท และ(ข) กรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน
6) การคัดค้าน: ท่านอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
7) การถอนความยินยอม: สําหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ให้บริษัทเก็บรวบรวมใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่าน ณ เวลาใด ก็ได้
8) การยื่นเรื่องร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอํานาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวมใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทําในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
6. ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล Period of Personal Data processing
บริษัทมีสิทธิ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอ่อนไหวของท่าน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลแก่ผู้ประมวลผลและให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี โดยมีกําหนดระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันสมัครงาน (สําหรับผู้สมัคร) และมีกําหนดระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุดลง (สําหรับพนักงาน)
7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล Changes to this Privacy Policy
7.1 การปรับปรุงนโยบายบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการทํางานของบริษัทโดยประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผ่านช่องทางต่างๆของบริษัท โดยสามารถตรวจสอบนโยบายส่วนบุคคลฝ่ายทรัพยากรมนุษย์เว็บไซต์ https://www.cerathai.com
7.2 รายละเอียดการติดต่อบริษัทหากมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ เพื่อดําเนินการตามคําร้องขอของท่าน และ/หรือประสานงานกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
▪ บริษัท เซราไทย จํากัด เลขที่ 580 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
▪ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ HR Contact Data Protection Officer (DPO)
- อีเมล [email protected]
- เบอร์โทรศัพท์ [02] 514-0293-5 , [02] 5140147-9 ต่อ 313
บริษัท เซราไทย จำกัด ต่อไปเรียกว่า “บริษัท” ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ.ฯ”) และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ ที่จะประกาศใช้ภายใต้ พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว บริษัท จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือ ที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา และก่อนที่บริษัทจะเข้าทำสัญญาซื้อขายกับท่าน
1.2 เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
1.3 เพื่อการซื้อขาย การทำธุรกรรม รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนตามกระบวนการ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้
1.4 เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้
1.5 เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา
1.6 เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งภายในและภายนอก)
1.7 เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัท
1.8 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัท ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัท
1.9 เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ ตามความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัท ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ลักษณะของสินค้า บริการ และ/หรือ ธุรกรรมที่ท่านทำกับบริษัท
2.1 แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
- เมื่อท่านซื้อสินค้า และ/หรือ ขอรับบริการจากบริษัท
- การสนทนาระหว่างท่าน และบริษัท รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
- เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท
- แบบสำรวจความเห็นของลูกค้า และการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์/ และหรือบริการของบริษัท
- เมื่อท่านเข้าร่วมในการแข่งขัน หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท
- เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลผ่านทาง Social Media ในกรณีดังกล่าว บริษัท จะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่ท่านเลือกให้ปรากฏต่อสาธารณะเท่านั้น
- เมื่อบริษัท ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอก เช่น บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น
- เมื่อท่านซื้อสินค้า และ/หรือ บริการใด ๆ ของบริษัท ผ่านทางบุคคลภายนอก
ในบางกรณี บริษัท อาจร่วมกับบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่บริษัทในเครือของบริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับแบบสำรวจความเห็นของลูกค้าเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ อย่างไรก็ตาม บริษัท จะแจ้ง และเปิดโอกาสให้ท่านปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวได้
2.2 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
ประเภทของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ของท่านที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เอกสารสำคัญของนิติบุคคลที่ออกให้โดยราชการ (กรณีลูกค้าเป็นนิติบุคคล) หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ภาพถ่าย ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
- ข้อมูลทางการเงิน: ข้อมูลบัญชีธนาคาร ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน เลขที่บัตรเครดิต และชื่อผู้ถือบัตร และรายละเอียดของบัตรเครดิต
- ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data):
– ข้อมูลศาสนา
– ข้อมูลสุขภาพ
– ประวัติอาชญากรรม
บริษัท อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านบางประเภท เพื่อใช้ในส่งมอบสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัท จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลประเภทนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถกระทำได้
2.3 การปฏิเสธให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท
ในกรณีที่บริษัท จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท บริษัท อาจปฏิเสธการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัท อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมาย โดยบริษัท ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยใช้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล | ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
สินค้า และบริการ | |
· เพื่อส่งมอบ/ จัดส่งสินค้าของบริษัท และ/หรือ เพื่อการให้บริการของบริษัท · เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน · เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และบริการที่มีอยู่ · เพื่อบริหารจัดการการชำระเงินของท่าน รวมถึงจัดการค่าใช้จ่าย · เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้ · เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา | · ฐานสัญญา |
การดูแลลูกค้า | |
· เพื่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับสินค้า และ/หรือ บริการของบริษัท · เพื่อลงทะเบียนลูกค้า · เพื่อตอบข้อร้องเรียน และหาแนวทางในการเยียวยาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ · เพื่อปฏิบัติตามคำร้องขอตามสิทธิที่ท่านมีต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท · เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัท และท่าน หรือธุรกิจของท่าน · เพื่อรักษา และทำให้ข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน · เพื่อจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้า | · ฐานสัญญา · ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย · ฐานความยินยอม · ฐานประโยชน์อันชอบธรรม |
การพัฒนาธุรกิจ | |
· เพื่อระบุถึงประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และบริการที่มีอยู่ · เพื่อวางแผนการพัฒนาสินค้า และบริการที่มีอยู่ · เพื่อทดสอบ วิเคราะห์ และพัฒนาสินค้า และบริการใหม่ ๆ · เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ ในการตอบสนองความต้องการของท่าน และพัฒนาธุรกิจของบริษัท · เพื่อทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ความต้องการ และเพื่อทำการประเมินและสำรวจความพึงพอใจของท่าน | · ฐานประโยชน์อันชอบธรรม |
การบริหารความมั่นคง ความปลอดภัย และความเสี่ยง | |
· เพื่อป้องกันอาชญากรรม และบริหารจัดการความปลอดภัยของบริษัท เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายใน และโดยรอบบริษัท ซึ่งอาจมีการเก็บภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ของท่าน · เพื่อบริหารความเสี่ยงของบริษัท และลูกค้าของบริษัท · เพื่อจัดเก็บเอกสารสำหรับการตรวจสอบ อ้างอิง · เพื่อสืบหา ตรวจสอบ รายงาน และหาแนวทางในการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน · เพื่อการตรวจสอบกิจการภายในของบริษัท · เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัท (ทั้งภายใน-ภายนอก) · เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง | · ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย · ฐานประโยชน์อันชอบธรรม |
การตลาด | |
· เพื่อสำรวจสินค้า และ/หรือ บริการของบริษัท ที่ท่านอาจสนใจ · เพื่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดที่วิเคราะห์แล้วว่าตรงกับความต้องการของท่านผ่านวิธีการใด ๆ รวมถึงอีเมล โทรศัพท์ ข้อความทางโทรศัพท์ Social Media จดหมาย หรือสื่อสารต่อหน้า · เพื่อพัฒนากิจกรรมทางการตลาด | · ฐานความยินยอม · ฐานประโยชน์อันชอบธรรม |
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท อาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
4.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่น
- ผู้รับเหมาช่วง นายหน้า หรือผู้ให้บริการใด ๆ ที่ทำงานให้กับบริษัท หรือให้บริการแก่บริษัท ทั้งนี้รวมถึงผู้รับเหมาช่วง ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว
- ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลผลประโยชน์ใด ๆ ของท่าน
- คนกลาง บุคคลผู้ติดต่อ และตัวแทนของท่าน
- สถาบันทางการเงิน และผู้ให้บริการรับชำระเงิน
- บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวมกิจการ หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งบริษัท มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่าง บริษัท และท่าน
- หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท ผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท ให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท
- บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
- หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ
- บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน สินค้า หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ)
- บุคคลใด ๆ ที่บริษัท ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว
4.2 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัท อาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อจัดเก็บ และ/หรือ ประมวลผลในการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่าน และบริษัท โดยบริษัท จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และจะกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
5. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลดังกล่าว โดยบริษัท จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันที่ท่านไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัท แล้ว โดยบริษัท จะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัท อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่าระยะเวลานานกว่านั้น
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท จะเคารพสิทธิของท่านและจะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่านภายใต้สถานการณ์บางประการ อย่างทันท่วงที ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้
6.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ บริษัท อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหากบริษัท สามารถใช้ฐานอื่นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัท
6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสมบูรณ์
6.4 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัท ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธินี้จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัท จะพิจารณาแต่ละคำขอด้วยความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.5 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัท ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัท ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การบันทึกและวิเคราะห์ลักษณะทางจิตวิทยาและพฤติกรรมของบุคคล (Profiling)
6.6 สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัท แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้บริษัท พิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.7 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณี ท่านสามารถขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัท และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพันภายใต้สัญญาได้
6.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัท หรือพนักงานของบริษัท หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ฯ หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว
ท่านอาจใช้สิทธิข้างตนของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัท ผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 8 ด้านล่าง
บริษัท อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
บริษัท จะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายใน 30 วัน ในบางกรณี บริษัท อาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัท จะแจ้งให้ท่านทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ
7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัท ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัท จะตรวจสอบและใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางกายภาพ และทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอ ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกเปิดเผย และนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือ เข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พนักงานหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ของบริษัท
8. การจัดการกับเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย
ท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัท จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือสอบถามข้อสงสัยได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
ติดต่อ บริษัท
ในกรณีที่ท่านมีคำถามเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า(Privacy Notice)ของเรา ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
▪ บริษัท เซราไทย จํากัด เลขที่ 580 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
▪ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ HR Contact Data Protection Officer (DPO)
- อีเมล [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ [02] 514-0293-5 , [02] 5140147-9 ต่อ 313
บริษัท เซราไทย จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวของท่าน อย่างไรก็ตามเพื่อให้บริการที่มีคุณภาพแก่ท่านรวมถึงประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัท ที่ https://www.cerathai.com หรือบนแพลทฟอร์มอื่น ๆ ในอินเตอร์เน็ต เช่น เพจเฟสบุ๊ค (facebook fanpage) บัญชีไลน์ (official line account) ของบริษัท เป็นต้น (เรียกรวมกันว่า “เว็บไซต์”) บริษัท อาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน และการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน (เรียกรวมกันว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”) โดยการใช้คุกกี้ หรือ เทคโนโลยีอื่นใดที่คล้ายคลึงกันเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้บริษัท สามารถอำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ พัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ และตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของท่าน
นโยบายคุกกี้ฉบับนี้อธิบายถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้
- คุกกี้คืออะไร
- บริษัท ใช้ คุกกี้ประเภทใด
- บริษัท ใช้คุกกี้อย่างไร
- การจัดการคุกกี้
1.คุกกี้คืออะไร
คุกกี้คือข้อมูลตัวอักษรขนาดเล็กซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต เช่น สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งโดยปกติคุกกี้จะทำหน้าที่บันทึกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัท เช่น ชื่อ ที่อยู่ อีเมล รหัสผ่าน ไอพีแอดเดรส (IP Address) เบอร์โทรศัพท์ และคำค้นหา และการตั้งค่าผู้ใช้งานต่าง ๆ (เช่น ภาษา) เป็นต้น
คุกกี้จะช่วยให้บริษัท ทราบว่า ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทอย่างไร เพื่อที่บริษัท จะสามารถพัฒนาปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน/ การให้บริการแก่ท่านให้ดียิ่งขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้ โดยการบันทึกการตั้งค่าของคุกกี้ จะช่วยจดจำการตั้งค่าการใช้งานของท่าน ซึ่งจะทำให้การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านในครั้งต่อไปเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และตอบสนองต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น
2.บริษัท ใช้คุกกี้ประเภทใด
บริษัท อาจใช้คุกกี้ ดังต่อไปนี้ เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท
- คุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies)
- คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Site Functionality Cookies)
- คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ (Site Analytical/ Performance Cookies)
3.บริษัท ใช้คุกกี้อย่างไร
บริษัท จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึง การตั้งค่าการใช้งานของท่านเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท โดยการนำไฟล์คุกกี้จำนวนหนึ่งเข้าสู่เว็บบราวเซอร์ของท่าน ในกรณีนี้ บริษัทใช้คุกกี้เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หมวดหมู่ของคุกกี้ | วัตถุประสงค์และคำอธิบายหมวดหมู่ของคุกกี้ | อายุการใช้งาน |
คุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่ทำให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้งานในเว็บไซต์ของเราได้อย่างปลอดภัย | 90 วัน |
คุกกี้เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Site Functionality Cookies) | คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถท่องเว็บไซต์และใช้คุณสมบัติต่าง ๆ ของเรา เช่น การลงทะเบียน การล็อคอินเข้าสู่ระบบ เป็นต้น โดยคุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการจดจำตัวท่านเมื่อท่านกลับมาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถปรับแต่งเนื้อหาสำหรับท่าน ปรับให้เว็บไซต์ของเราตอบสนองความต้องการใช้งานของท่าน รวมถึงจดจำการตั้งค่าของท่าน อาทิ ภาษา หรือภูมิภาค หรือขนาดของตัวอักษรที่ท่านเลือกใช้ในการใช้งานในเว็บไซต์ หากท่านไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้เหล่านี้ จะส่งผลให้บริการบางส่วนหรือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องอาจทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ | 90 วัน |
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงานของเว็บไซต์ (Site Analytical/ Performance Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราสามารถจดจำและนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ตลอดจนช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีขึ้นและมีความเหมาะสมมากขึ้น อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับวิธีการเข้าและพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์โดยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาของเรา หากคุณไม่อนุญาตคุกกี้เหล่านี้เราจะไม่ทราบว่าคุณได้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเมื่อใดและจะไม่สามารถตรวจสอบผลการทำงานของเว็บไซต์ได้ | 90 วัน |
อนึ่ง คุกกี้บางประเภทในเว็บไซต์นี้จัดการโดยบุคคลที่สาม เช่น เครือข่ายการโฆษณา ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับลักษณะการทำงานต่างๆ อาทิ วิดีโอ แผนที่ และโซเชียลมีเดีย และผู้ให้บริการเว็บไซต์ภายนอกอื่น ๆ เช่น บริการวิเคราะห์การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เป็นต้น คุกกี้เหล่านี้มักจะเป็นคุกกี้เพื่อการวิเคราะห์/วัดผลการทำงาน ท่านควรต้องศึกษานโยบายการใช้คุกกี้และนโยบายส่วนบุคคลในเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม เพื่อให้เข้าใจถึงวิธีการที่บุคคลที่สามอาจนำข้อมูลของท่านไปใช้
4. การจัดการคุกกี้
ท่านสามารถจัดการคุกกี้ โดยการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าคุกกี้ โดยการยอมรับ ปฏิเสธ หรือ ลบคุกกี้ซึ่งถูกตั้งค่าไว้ในเว็บไซต์ของบริษัท ท่านสามารถดำเนินการดังกล่าวได้โดยการเลือกการตั้งค่าคุกกี้หรือตั้งค่าบราวเซอร์ของท่าน เช่น ห้ามการติดตั้งคุกกี้ลงบนอุปกรณ์ของท่านโดยการปิดการใช้งานคุกกี้ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าคุกกี้ดังกล่าวอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เนื่องจากท่านอาจไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์บางส่วน หรืออาจไม่สามารถเก็บข้อมูลการตั้งค่าการใช้งานของท่านได้ นอกจากนี้ อาจส่งผลต่อการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งอาจทำให้ไม่อาจแสดงผลได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์
- ประกาศความเป็นส่วนตัว
หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัท ที่ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้มาติดต่อ ซึ่งเผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท โดยนโยบายการใช้คุกกี้นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัท
- การแก้ไขนโยบายคุกกี้
เราขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขประกาศฉบับนี้ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้เป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจสอบนโยบายคุกกี้ รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่เราจะปรับปรุงข้อมูลที่เผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ของบริษัท ให้เป็นปัจจุบัน และในกรณีที่เหมาะสม เราอาจจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ผ่านทางอีเมลที่ท่านได้ให้ไว้
- การจัดการกับเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย
ท่านสามารถติดต่อบริษัท เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัท จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือสอบถามข้อสงสัยได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้
ติดต่อ บริษัท
ในกรณีที่ท่านมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายคุกกี้ของเรา ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
▪ บริษัท เซราไทย จํากัด เลขที่ 580 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
▪ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ HR Contact Data Protection Officer (DPO)
- อีเมล [email protected]
- เบอร์โทรศัพท์ [02] 514-0293-5 , [02] 5140147-9 ต่อ 313
ให้ประกาศฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2565