
เครื่องพิมพ์ 3มิติ (3D Printer) จาก MARKFORGED
บริษัท เซราไทย จำกัด เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่มีการแข่งขันกันสูงมากยิ่งขึ้น การสรรหาเครื่องมือที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสนับสนุนต่อความต้องการของลูกค้าจึงเป็นพันธกิจสำคัญของเรา โดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีช่องทางในการเติบโตสูงและมีความสำคัญต่องานอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น Markforged ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องพิมพ์ 3 มิติมาอย่างยาวนาน จึงเป็นเครื่องที่เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการผลิตงานของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด Markforged เมื่อนึกถึงเครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) หลายคนยังติดภาพจำเดิม ๆ ว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ผลิตงานต้นแบบหรือของเล่นเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้งานจริงได้ แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มีใช้มานานหลายสิบปี ด้วยสาเหตุหลากหลาย ตั้งแต่คุณภาพชิ้นงาน ความคงทน ความแม่นยำ วัสดุที่มีให้เลือกจำกัด แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความคิดนี้จึงไม่ตรงกับความเป็นจริงอีกต่อไป เทรนด์การใช้งาน 3D Printer สำหรับชิ้นส่วนใช้งานจริง (End-use part) นี้นำโดยบริษัทอย่าง Markforged ผู้นำเทคโนโลยี 3D Printing วัสดุ Carbon Fiber และ Metal จากอเมริกา ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชั่นที่ใช้งานได้จริงในอุตสาหกรรม ในขณะที่บริษัท 3D Printer ส่วนใหญ่โฟกัสกับตลาด Rapid Prototyping จึงถือเป็นผู้ Disrupt วงการและช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม 3D Printing เข้าสู่ยุคใหม่ ตลาด 3D Printer ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตในอัตราสูง ประกอบกับเหตุการณ์ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องโรคระบาด เงินเฟ้อ สงคราม ราคาวัตถุดิบ นโยบาย Zero Covid ของจีน ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ผู้ผลิตมองหาโซลูชั่นการผลิตชิ้นส่วนรูปแบบใหม่ แน่นอนว่า 3D Printer ยังไม่สามารถผลิตงานแทนได้ทุกอย่าง แต่เป็นวิธีการผลิตที่ตอบโจทย์หากรู้จักนำมาใช้ให้ถูกจุด นี่คือสาเหตุที่เราไม่ได้ขายแค่เครื่อง 3D Printer แต่เราพัฒนาโซลูชั่นครบวงจรที่เรียกว่า Digital Forge หรือโรงงานดิจิทัล มีทั้งเครื่องพิมพ์ วัสดุ ซอฟท์แวร์ และบริการ ให้ลูกค้าสามารถผลิตงานคุณภาพสูงที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้การทำงานยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ จากเดิมต้องไปง้อ Supplier ก็มาพิมพ์งานใช้เอง ลดปัญหา Supply Chain ไปเยอะ ตอนนี้กลายเป็นว่าใครไม่ลงทุนกับเทคโนโลยีใหม่ก็จะเสียเปรียบคู่แข่ง ตามที่อธิบายข้างต้น ปัญหาที่ผู้ใช้งาน 3D Printer หลายที่เจอคือชิ้นงานไม่แข็งแรง หลายบริษัทลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์ไปหลักล้าน พิมพ์งานออกมาใช้แล้วเปราะ หัก สุดท้ายต้องไปกัดเหล็กด้วย CNC อยู่ดี เพราะฉะนั้น Markforged จึงคิดค้นเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D แบบใหม่ที่เรียกว่า Composite Fiber Reinforcement (CFR) หรือการพิมพ์วัสดุโพลิเมอร์เสริมวัสดุคอมโพสิตเช่น Carbon Fiber, Kevlar, Fiberglass หลักการเหมือนการหล่อคอนกรีตที่ต้องมีการเสริมเหล็กเส้นให้โครงสร้างแข็งแรง ผลลัพธ์ที่ได้คือชิ้นงานที่แข็งแกร่งเหนือ 3D Printer ทั่วไปที่พิมพ์แค่วัสดุพลาสติก ABS, PLA หลายสิบเท่า สามารถใช้งานแทนชิ้นส่วนอลูมิเนียมได้ ซึ่งตอบโจทย์การผลิตงานหลายรูปแบบ ทั้งงานต้นแบบ Jigs & Fixtures กริปเปอร์